ในวันนี้เอริเซ็นเซเลยจะมาแนะนำช่องทาง เรียนภาษาญี่ปุ่นออนไลน์ฟรี และมีความน่าเชื่อถือ เหมาะกับคนที่ต้องการเรียนด้วยตัวเอง และประหยัดค่าใช้จ่ายในการเรียนค่ะ! เรียนภาษาญี่ปุ่นออนไลน์ฟรี ทั้ง 5 ช่องทางมีดังนี้
1. ช่อง Nihongonomori ทาง Youtube
เรียนภาษาญี่ปุ่นออนไลน์ฟรี ช่องนี้มีเนื้อหาหลากหลาย สอนตั้งแต่ระดับพื้นฐานโดยเริ่มจากตัวอักษรญี่ปุ่นไปจนถึงระดับ N1 สอนเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะเป็นภาษาญี่ปุ่นที่สามารถเข้าใจได้ง่าย นอกจากจะได้เนื้อหาที่เรียนแล้ว จะได้ฝึกฟังสำเนียงการออกเสียงของชาวญี่ปุ่นด้วย เรียกว่าได้ประโยชน์หลายต่อเลยทีเดียว! แถมยังมีอาจารย์หลายคนให้เลือกติดตามได้แล้วแต่ชอบ หากฟังสำเนียงของใครแล้วคิดว่าเข้าใจง่าย น่าเรียน ก็เลือกเรียนหลักสูตรของอาจารย์คนนั้นได้เลย แต่เท่าที่เซ็นเซดูมา ต้องบอกว่าสอนดีทุกคนจริง ๆ เป็นขุมทรัพย์คลังความรู้ของหลายคนที่ต้องการสอบวัดระดับเลยก็ว่าได้ค่ะ
2. ช่อง Coto Academy ทาง Youtube
เรียนภาษาญี่ปุ่นออนไลน์กับช่องนี้ จะสอนประโยคหรือสำนวนภาษาญี่ปุ่นเจ๋ง ๆ ที่ใช้ได้ทันทีในชีวิตประจำวัน โดยเจ้าของภาษา แต่อธิบายด้วยภาษาอังกฤษง่าย ๆ ค่ะ แค่ดูตัวอย่างประโยคจากในวีดีโอก็สามารถทำความเข้าใจได้ง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน ไม่ต้องกลัวยากแน่นอนค่ะ คำศัพท์และประโยคก็จะหลากหลายและนำไปใช้ได้ในชีวิตประจำวัน ไม่ได้เน้นการเรียงประโยคแบบท่องไวยากรณ์ แต่เน้นสอนเพื่อให้จำประโยคและสถานการณ์ที่เหมาะสมกับการใช้ประโยคนั้น ๆ ไปเลย ถ้าใครอยากเรียนเพื่อไปลองพูดทันที ก็แนะนำช่องนี้เลยค่ะ
3.
Pantip
ช่อง Crazy Japanese – Japanese Language School ทาง Youtube
เรียนภาษาญี่ปุ่นออนไลน์ฟรี ช่องนี้มีการสอนที่ไม่ซับซ้อนและเข้าใจได้ค่อนข้างง่าย มีเนื้อหาหลากหลายทั้งประโยค คำศัพท์ พร้อมตัวอย่างเป็นสถานการณ์จริงที่ใช้เลย หากเป็นผู้ปกครองที่อยากให้ลูก ๆ มาเรียนภาษาที่สาม ก็สามารถเรียนไปพร้อม ๆ กันได้เลย ศัพท์ที่น่าสนใจอย่างเช่น ศัพท์เกี่ยวกับผลไม้ ศัพท์เกี่ยวกับผัก หรือบทสนทนาของคุณแม่คุณลูก (เพราะผู้สอนในช่องนี้เป็นคุณแม่แล้วค่ะ) ดูแล้วน่ารักแถมยังจำไปใช้ได้ด้วย ยิ่งเป็นคุณแม่ที่อยากให้ลูกเรียนภาษาแล้วด้วยล่ะก็ เรียนด้วยกันสนุกเพลิดเพลินเลยค่ะ
4. ช่อง Learn Japanese with ทาง Youtube
เรียนภาษาญี่ปุ่นออนไลน์กับช่องนี้ จะแบ่งเป็นหัวข้อ ๆ ตามสถานการณ์ที่เรานำไปใช้ได้ เช่น คำพูดเวลาโกรธ คำพูดเวลาผิดหวัง คำพูดเวลาดีใจ ฯลฯ สอนโดยเจ้าของภาษาที่อธิบายด้วยภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษสลับกัน และมีซับไตเติ้ลให้ด้วยค่ะ จะได้ฝึกทั้งการฟัง การพูดและการอ่านไปด้วย เรียกว่าคุ้มค่ามาก ๆ ค่ะ แถมเป็นคำที่ใช้จริงแน่นอน ถ้าดูอนิเมะหรือซีรีส์ญี่ปุ่นมา ดูช่องนี้จะอ๋อรัว ๆ เลยค่ะ เพราะ ประโยคที่นำมาสอนได้ยินในอนิเมะหรือซีรีส์บ่อยม๊าก~ เราจะได้เข้าใจว่า "อ๋อ มันหมายความแบบนี้นี่เอง…"
5.
สมัยนี้ ภาษาที่สามไม่ว่าจะเป็นภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น ภาษาเกาหลี หรือภาษาในแถบอาเซียนก็เริ่มเป็นที่สนใจอย่างแพร่หลายกันแล้วนะคะ เพราะคนที่มีภาษาที่สามติดตัวจะได้เปรียบกว่ามาก และพี่เชื่อว่า น้องๆ ชาว Dek-D เองก็ต้องสนใจในภาษาที่สามเช่นกัน ไม่งั้นคงไม่กดเข้ามาอ่านในบทความนี้หรอก ใช่มั้ยล่ะ?
- มาตรฐานน้ําดื่ม กรมอนามัย
- แบบบ้านยกพื้นสไตล์ทรอปิคอล โทนสีเทาสุดเท่ 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พร้อมเฉลียงรับลมหน้าบ้าน งบก่อสร้าง 1.6 ล้านบาท | Homeplan108.com
- แบ ต iphone 5 ราคา ศูนย์
- ลา ส คา ออ ส
- แนะนำ 5 หนังสือเรียน Eng-Jap สำหรับผู้เริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่น | Dek-D.com
- Titanic ไททานิก 1997 - 037FHD เว็บดูหนังออนไลน์ 2021 ดูหนังฟรี อัพเดทหนังใหม่ล่าสุด
- จอง Corolla Cross ไป / พอกลับมาบ้าน รู้สึก จิตตกนิดหน่อย - Pantip
- รถ ตู้ มือ สอง เจ้าของ ขาย เอง เชียงใหม่
- Acer ราคา ไม่ เกิน 20000
- เผย! วิธีเรียนภาษาญี่ปุ่นออนไลน์ฟรี จาก 5 ช่องทางนี้ คุณเองก็เก่งภาษาได้ง่าย ๆ
- แอ พ ตาม หา รถ
- Huawei mate 9 ราคา ais review
เรื่องนี้แปลมาจาก เป็ยเว็บที่ดีมากเลยสำหรับคนที่เรียนภาษาเกาหลี (และญี่ปุ่น) ด้วยตัวเอง เราเองก็ต้องเข้าเช็คเว็บนี้ทุกวันเหมือนกัน…. หาแรงบันดาลใจ
คำถาที่ถูกถามบ่อยมากๆก็คือ
ถ้าภาษาญี่ปุ่นเรายังไม่แข็งแรง เราสามารถเรียนภาษาเกาหลีได้ไหม (หรือในทางกลับกัน ถ้าเกาหลียังเรียนอยู่ระดับต้นๆ จะเริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่นได้ป่ะ)? ควรเริ่มเรียนภาษาใหม่ๆ (ภาษาที่ สาม สี่ ห้า) เมื่อไหร่ดี? ถ้าเรียนภาษาต่างชาติ 2 ภาษาพร้อมกัน จะงงไหม จะแบ่งเวลายังไงดี? เรียนเกาหลีจะทำให้เราลืมภาษาญี่ปุ่นหรือเปล่า (หรือในทางกลับกัน เรียนญี่ปุ่นจะทำให้ลืมเกาหลีไหม)?
ภาษาอังกฤษ
2. คํานามเอกพจน์และคำนามพหูพจน์นั้นเหมือนกัน
เรามักจะต้องเติมตัว "s" ในคำนามภาษาอังกฤษเพื่อเปลี่ยนให้เป็นคำนามพหูพจน์ แต่ภาษาอังกฤษก็มีข้อยกเว้นมากมายสำหรับกฏนี้เช่น ผู้หญิง woman (women), ห่าน goose (geese) และเท้า foot (feet) การสะกดคำนามพหูพจน์ในภาษาอังกฤษนั้นจะขึ้นอยู่กับตัวอักษรตัวสุดท้ายของคำ ๆ นั้น นี่เป็นสิ่งที่ทำให้คนที่ต้องเรียนภาษาอังกฤษต่างมึนไปตาม ๆ กัน
ภาษาญี่ปุ่นนั้นไม่มีพหูพจน์ คํานามเอกพจน์และคำนามพหูพจน์นั้นเหมือนกัน! คุณไม่ต้องเปลี่ยนคำเพื่ออธิบายว่าสิ่งที่คุณพูดถึงนั้นมีหนึ่งชิ้นหรือมากกว่าหนึ่งชิ้น
3.
แค่ภาษาญี่ปุ่นก็พอ
ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้ายที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศระดับหัวแถว เพราะองค์ความรู้เกือบทุกแขนงในโลกใบนี้ ได้รับการแปลเป็นภาษาญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นจึงไม่จำเป็นต้องขวนขวายไปหา text book ภาษาอื่นๆ อ่านให้ปวดหัว
ยิ่งในชีวิตประจำวัน ถ้าไม่ใช่คนญี่ปุ่นในเมืองใหญ่ คุณก็สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสบายๆ โดยไม่จำเป็นต้องพูดภาษาอังกฤษเลยแม้แต่น้อย
4. ลักษณะการออกเสียงที่จำกัด
ข้อนี้คนที่เคยเรียนภาษาญี่ปุ่นจะนึกออกทันที เพราะเสียงในภาษาญี่ปุ่นนั้นค่อนข้างจำกัดมาก แม้กระทั่งคำง่ายๆ ยังไม่สามารถอ่านออกเสียงด้วยภาษาญี่ปุ่นแบบเป๊ะๆ ได้ ทำให้ภาษาอังกฤษในสำเนียงญี่ปุ่นนั้นฟังยากแบบสุดๆ
ยกตัวอย่างเช่น ร้านแมคโดนัลด์ คนญี่ปุ่นจะออกเสียงว่า "มา-คุ-โด-นา-รุ-โดะ" ถ้าได้ยิน คนญี่ปุ่นจะรู้ทันทีว่าหมายถึงแมคโดนัลด์ แต่ถ้าเป็นคนต่างชาติ อืม…ก็ฟังยากเหมือนกันนะ
5.
สรุป เรียนภาษาญี่ปุ่นออนไลน์ฟรี เป็นอย่างไรบ้าง? ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นก็คือ ช่องทางการเรียนภาษาญี่ปุ่นฟรี ๆ ที่แม้แต่เอริเซ็นเซก็กดติดตามไว้เป็นที่เรียบร้อย เพราะนอกจากจะมีคอนเทนต์เจ๋ง ๆ ให้ดูตลอดแล้ว ยังสามารถประหยัดค่าใช้จ่าย เก่งได้โดยไม่ต้องลงทุนแพง คุ้มค่าที่สุดแล้ว~! ใครมีช่องทางเจ๋ง ๆ อื่น ๆ อีก ก็อย่าลืมแบ่งปันกันหน่อยน้า~ เพราะเรียนด้วยกัน เก่งด้วยกันสนุกกว่าเยอะ! ขอให้สนุกกับการเรียนภาษาญี่ปุ่นนะคะ ถ้าคิดว่าบทความ "5 ช่องทางเรียนภาษาญี่ปุ่นออนไลน์ฟรี" มีประโยชน์ อย่าลืมแบ่งปันให้คนรอบข้างคุณด้วยนะคะ ส่วนใครสนใจ เรียนภาษาญี่ปุ่นออนไลน์ อย่าลืมติดตามเพจของเอริด้วยน้า~ 以上えりでした。 เอริเซ็นเซ
คุณสามารถหาคำตอบได้ที่ FAQs แต่ถ้าหากไม่พบคำตอบอ่านข้อ 2
ปัจจุบันทำงานบริษัทข้ามชาติ(ญี่ปุ่น) ใช้สื่อสารภาษาอังกฤษเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากญี่ปุ่นที่นี่พูดอังกฤษได้ แต่ก็มีบางคนพูดไม่ได้ (มี Japanese 10 กว่าคน) อยากไปเรียนภาษาญี่ปุ่นเพิ่ม เพราะคนไทยที่ใช้ได้ทั้งภาษาอังกฤษและญี่ปุ่น เงินเดือนและความก้าวหน้าในการทำงานเร็วมาก
แต่ตอนนี้กำลังพัฒนาภาษาอังกฤษให้เก่งยิ่งขึ้น เนื่องจากยังไม่เก่งมาก แค่พอสื่อสารพื้นฐานได้
ถ้าไปเริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่นตอนนี้พร้อมกับพัฒนาภาษาอังกฤษไปพร้อมกัน จะทำให้สับสนและพัฒนาภาษาอังกฤษช้าหรือไม่ หรือควรเอาอังกฤษให้ชำนาญก่อนแล้วค่อยไปเริ่มเรียนญี่ปุ่น
แสดงความคิดเห็น
4. คุณสามารถพูดแค่คำคุณศัพท์อย่างเดียวได้
ในภาษาอังกฤษ ถ้าคุณพูดว่า หนาว! (Cold! ) คุณจะดูเหมือนคนที่พูดภาษาอังกฤษได้แบบถู ๆ ไถ ๆ เป็นคำ ๆ เท่านั้น เพราะคุณต้องพูดว่า "it's cold" เพื่อให้เป็นประโยคที่ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ แต่ในภาษาญี่ปุ่น คุณสามารถพูดแค่คำคุณศัพท์อย่างเดียวก็ได้ตราบใดที่คำพูดนั้นมันเหมาะสมกับสถานการณ์ เช่น คิเร/ きれい (สวย), คาวาอิ/ 可愛い (น่ารัก), ซามุย/ 寒い (หนาว), อัตซึย/ 暑い (ร้อน), ฮาไย/ 早い (เร็ว) คุณสามารถพูดขึ้นมาโดด ๆ เพื่ออธิบายถึงสถานการณ์และบริบทต่าง ๆ ได้เลย
5. การสะกดตัวอักษร
การสะกดตัวอักษรในภาษาอังกฤษนั้น เป็นเรื่องน่าปวดหัวแม้กระทั่งสำหรับเจ้าของภาษาเอง แต่สำหรับภาษาญี่ปุ่นแล้ว เมื่อคุณเรียนรู้ที่จะสะกดคำในภาษาฮิรางานะหรือโรมันจิ คุณก็ไม่ต้องจำข้อยกเว้นอะไรเพิ่มอีกเลย เพราะมันจะสะกดเหมือนเดิมตลอด เพียงแค่ต้องเรียนการอ่านตัวอักษรคันจิเท่านั้น และไม่ต้องห่วงเรื่องกฏข้อยกเว้นในการสะกดคำ
การเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นนั้นไม่ง่าย แต่มันทั้งสนุกและมีประโยชน์มากหากคุณสามารถเรียนจนสามารถใช้ในชีวิตจริงได้ เราหวังว่าคุณจะกล้าและมั่นใจในการเรียนภาษาญี่ปุ่นมากขึ้นหลังจากที่ได้อ่านบทความนี้นะ!
ถ้าใครเคยไปประเทศญี่ปุ่นจะพบว่า คนญี่ปุ่นหลายคนไม่ค่อยพูดภาษาอังกฤษ
หรือถ้าได้เจอคนที่พูดคุยด้วย คุณก็อาจจะเจอ "ภาษาอังกฤษสำเนียงญี่ปุ่น" ที่ฟังยากเหลือเกิน
คำถามคือ ทำไมประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องความก้าวหน้าและเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีอย่างญี่ปุ่น ถึงไม่ค่อยเก่งภาษาอังกฤษ
นี่คือคำถามที่คนญี่ปุ่นเองก็เคยสงสัย และนำมาวิเคราะห์จนได้ข้อสรุป ดังนี้
1. เน้นเรียนแค่อ่านและเขียน
การเรียนการสอนภาษาอังกฤษในประเทศญี่ปุ่นจะเน้นในแง่วิชาการ ไม่ต่างจากวิธีที่คนไทยคุ้นเคย นั่นคือคุณครูจะเขียนคำศัพท์และเรื่องที่สอนบนกระดาน เด็กนักเรียนก็มีหน้าที่จดตามเพื่อเอาไปสอบ สอบเสร็จแล้วก็จบกัน โดยไม่มีการกระตุ้นให้เด็กๆ นำภาษาอังกฤษไปใช้ในชีวิตประจำวันสักเท่าไหร่
พอรู้ปัญหาอย่างนี้แล้ว ปัจจุบันประเทศญี่ปุ่นจึงพยายามปรับให้ครูและนักเรียนสนทนากันมากขึ้น เพื่อฝึกให้เคยชินกับการใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตจริง
2. ไม่ค่อยกล้าพูด
เนื่องจากการเรียนที่เน้นวิชาการ คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จึงไม่มีความมั่นใจที่จะใช้ภาษาอังกฤษ บวกกับความที่มีนิสัยค่อนข้างขี้อาย และไม่ชอบความผิดพลาดเป็นพื้นฐาน ก็ยิ่งทำให้คนญี่ปุ่นไม่กล้าพูดภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันมากขึ้นไปอีก
3.
- คอ ล ลา เจน โรง พยาบาล ศาลา ยา
- วิธี ทํา แกง ป่า ลูกชิ้น ปลา ก ราย
- #ฝากประจําปลอดภาษี24เดือน